เปิด! 10 รถไฟฟ้า SUV น่าใช้ ปี 2025 มีรุ่นไหนบ้าง
Last updated: 28 มี.ค. 2568 | 17866 จำนวนผู้เข้าชม |

รถ SUV ถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายความต้องการ ทั้งการเดินทางแบบครอบครัว และการเดินทางไปยังพื้นที่ที่ต้องการความสมบุกสมบัน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้ามีความต้องการใช้งานที่แพร่หลายมากขึ้น รถไฟฟ้า SUV จึงเป็นที่ต้องการในท้องตลาดสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในบทความนี้ APRTECH จะมาแนะนำ 10 รถไฟฟ้า SUV รุ่นยอดนิยมในปี 2025 ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงจุดเด่นของรถแต่ละรุ่นเพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหารถ EV SUV ได้เปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อ
รถไฟฟ้า SUV หรือ รถ SUV ไฟฟ้า คืออะไร?
รถ SUV ไฟฟ้า คือรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน เพราะโดยทั่วไปแล้วรถ SUV ค่อนข้างใช้น้ำมันเยอะ เนื่องจากตัวรถมีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง ทำให้หากบรรทุกสัมภาระมาก น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้องใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนมากขึ้นตามไปด้วย รถยนต์ไฟฟ้า SUV จึงมีข้อดีในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำมัน รวมถึงยังสามารถทำอัตราเร่งได้ดีกว่า และไม่มีเสียงรบกวนขณะขับขี่
10 รถไฟฟ้า SUV รุ่นไหนดีที่เหมาะกับคุณ 2025
1. Porsche Macan

Porsche Macan รถไฟฟ้า SUV ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ผสานกับความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 540 ลิตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วย Porsche Traction Management (ePTM) มอบสมรรถนะการขับขี่ที่รวดเร็วและนุ่มนวล นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี AR Head-Up Display แสดงผลข้อมูลบนกระจกหน้ารถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
2. BYD Atto 3
BYD Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้า SUV 5 ที่นั่งจากแบรนด์ชั้นนำของจีน โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ขับเคลื่อนด้วยระบบ Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD และควบคุมด้วยแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 เพิ่มความปลอดภัยและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล ควบคุมได้ง่าย
3. NETA X
NETA X รถ SUV ไฟฟ้า 100% ที่ออกแบบเน้นความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าแรงดึงสูงถึง 75% และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS Level 2 ที่ครอบคลุมกว่า 11 ระบบ เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยจอดและออกตัวบนทางลาดชัน เป็นต้น รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ รองรับภาษาไทย
4. NETA X
BMW iX คือรถ EV SUV เต็มรูปแบบรุ่นแรกที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและทรงพลัง ผสานกับเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า ทำให้ iX มีสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับระบบ BMW iDrive ที่เป็นผู้ช่วยดิจิทัลอัจฉริยะ มอบความสะดวกสบายในการใช้งาน
5. Tesla Model Y

Tesla Model Y รถ SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์รถยนต์ EV ชั้นนำของโลก โดยรุ่นล่าสุดใช้เทคโนโลยีการหล่อตัวถังขนาดใหญ่ เพื่อลดรอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ และมีการปรับปรุงดีไซน์ไฟท้าย ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ภายในมีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง โดยเมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด จะมีความจุสูงสุดถึง 2,130 ลิตร และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยกระโปรงหลังเปิดเองอัตโนมัติ ที่ทำให้การบรรทุกสัมภาระสะดวกสบายยิ่งขึ้น
6. Kia EV6
KIA EV6 มาพร้อมดีไซน์สุดโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบ Tiger Nose ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KIA ให้รูปลักษณ์ที่ดูยาวเรียว โฉบเฉี่ยวในสไตล์ Crossover การันตีด้วยรางวัล European Car of The Year ในปี 2022 ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง อีกทั้งยังใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตคอนโซลรถ เพื่อสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด จึงเป็นอีกหนึ่งรถ EV SUV ที่น่าจับตามอง
7. Hyundai Ioniq 5

Hyundai IONIQ 5 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบ Parametric Pixels Design ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถรุ่นคลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เน้นเส้นสายที่เฉียบคม ทันสมัย ภายในห้องโดยสารออกแบบให้มีความโปร่ง โล่งสบาย และติดตั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Hyundai Smartsense เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย
8. XPENG G6
XPENG G6 เป็นรถไฟฟ้า SUV ทรงสปอร์ต มาพร้อมการออกแบบในคอนเซปต์ Circle of Life ที่ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย โดดเด่นด้วยเบาะที่ปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบระบายความร้อน รองรับทุกสรีระของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ อีกทั้งยังมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ และแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้มั่นใจทุกการเดินทาง
9. AVATR 11
AVATR 11 รถ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบภายในให้มีบรรยากาศสุดหรูหราด้วย Ambient Lighting หลังคาพาโนรามาขนาดใหญ่พิเศษเพื่อทัศนียภาพในการมองเห็นที่ชัดเจน และเบาะหนังระดับพรีเมียมปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันนวดและระบบระบายอากาศ ด้านความปลอดภัยในการขับขี่ มั่นใจได้ด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง L2+ (ADAS) และมีโหมดการขับขี่ให้เลือกหลากหลาย (Eco, Comfort, Sport, Customize)
10. Deepal S07
Deepal S07 รถอัจฉริยะที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้แพลตฟอร์ม EPA1 ที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำให้ควบคุมได้อย่างแม่นยำและมั่นคง ดีไซน์ภายนอกมีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full-LED และประตูไร้ขอบ อีกทั้งยังมีราคาที่คุ้มค่าและน่าสนใจเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า SUV ในระดับเดียวกัน
ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถไฟฟ้า SUV
- ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ
เพราะในปัจจุบันสถานีให้บริการ EV Charger ในบางพื้นที่อาจยังมีจำกัด หากรถยนต์ไฟฟ้ามีความจุแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างการเดินทางได้ ดังนั้น จึงควรเช็กระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งว่าสามารถไปได้ไกลแค่ไหน ซึ่งระยะทางที่วิ่งได้ อาจไม่เป็นไปตามตัวเลขที่รถคำนวณ เพราะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง มอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้ไฟมากกว่าเดิมมาก เช่น หากรถคำนวณว่าวิ่งได้ 480 กม. แต่เมื่อขับด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ระยะที่วิ่งได้จริงอาจเหลือเพียง 240 กม. และในความเป็นจริงเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30% ก็ต้องเริ่มหาที่ชาร์จแล้ว และการชาร์จเร็วระหว่างทางจะได้ถึงประมาณ 80% หลังจากนั้นการชาร์จจะช้าลง เพราะฉะนั้น ระยะทางในการชาร์จแต่ละครั้งก็จะเหลือ 50% เท่านั้น สรุปคือรถที่ระบุว่าวิ่งได้ 480 กม. ต้องชาร์จทุก 240 กม. เมื่อวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. หากขับที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ก็อาจต้องแวะชาร์จทุก 120 กม. หากวิ่งจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ระยะทางประมาณ 700 กม. ก็จะต้องชาร์จ 700/120 = 6 ครั้ง หากแต่ละครั้งใช้เวลาชาร์จ 30-45 นาที ก็จะต้องเผื่อเวลาชาร์จไปอีก 3-4.5 ชม. ในการเดินทางจาก กทม.ไปเชียงใหม่